วิ่งไปให้สุดฝัน หนังสือ “เย็นวันเสาร์-เช้าวันอาทิตย์”
วิ่งไปให้สุดฝัน
หนังสือ “เย็นวันเสาร์-เช้าวันอาทิตย์” ของ คามิน คมนีย์
กฤตภาศ ศักดิษฐานนท์
“ถ้าฉันวิ่งมาราธอนได้
อะไรๆฉันก็ต้องทำได้”
คามิน คมนีย์ กล่าวไว้ไนหน้า 32 ของหนังสือเล่มแรกในชีวิตของเขาเรื่อง
“เย็นวันเสาร์-เช้าวันอาทิตย์” นี่คือหนังสือสร้างแรงบันดาลใจชั้นเยี่ยมที่อาจเปลี่ยนแปลงชีวิตคุณได้
นอกจากนี้ยังแฝงคติความคิดลึกซึ้งเอาไว้ในเนื้อหาที่ตลกขบขันได้อย่างแยบยล
คามิน คมนีย์ มีความใฝ่ฝันและทุ่มกายถวายชีวิตเพื่อบรรลุฝันนั้น ความฝันของเขาคือการเป็นนักเขียนแต่จนอายุล่วงเลยมาถึงวัยสามสิบห้า
เขาพบว่าความฝันนี้ไม่มีทางเป็นจริงได้เลยถ้าเขาไม่เอาจริง
ด้วยภาระหน้าที่การงานรัดตัว
ความพะวงหวาดกลัวไม่กล้าตีจากชีวิตที่แน่นอนไปสู่วิถีทางอิสระ
เขาเลือกผูกตัวเองกับงานราชการอันแสนมั่นคงแต่สกัดกั้นจินตนาการเสรีและบั่นทอนความฝันในการเป็นนักเขียนให้ริบหรี่ลงทุกวัน
กระทั่งวันหนึ่ง “ชุมพล” เพื่อนรักของเขาได้จากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ
ชุมพลมีความฝันเดียวกับเขา คืออยากเป็นนักเขียน แต่จนแล้วจนรอด
ชุมพลก็ตายจากไปโดยที่ความฝันก็ยังคงเป็นแค่ความฝัน
“เราสองก็ไม่ผิดกับผู้คนมากมาย
เฝ้าผัดผ่อนการทำความความฝันไปตลอดกาล ด้วยเรากริ่งเกรงขวากหนามนานา
คิดว่าความฝันนั้นไม่อาจสร้างสรรค์ชีวิตมั่นคงปลอดภัย
เราเห็นตัวอย่างคนเพ้อฝันมากมากพอ และเราก็ขลาดกลัวเกินไป” (หน้า 34-35)
คามินตั้งคำถามกับชุมพล (และกับตัวเอง) ต่อหน้ารูปภาพชุมพลที่งานศพ
“ชีวิตช่างไม่แน่นอน...
ผมกลัวว่าจะตายไปอย่างเพื่อน (จ้องหน้ารูปถ่ายเพื่อนในงานศพ ถามเขาว่า
นายได้ทำที่ชอบๆหรือเปล่า เพื่อนไม่ตอบ ผมทวนคำถามแล้วร่ำไห้...
ตอนเป็นๆทำไมนายไม่ทำที่ชอบๆ... หา)
(หน้า 35)
หลังจากคามินลังเลอยู่ช่วงหนึ่ง
ต่อมาไม่นานเขาก็ลาออกจากราชการ มุ่งมั่นในเส้นทางนักเขียนเต็มตัว
ทว่าไม่มีความฝันใดได้มาง่ายๆ เขาหลงทาง เมื่อพาตัวเองลงแข่งขันวิ่งมาราธอน
แรกเริ่มเดิมทีนั่นเป็นเพียงสิ่งที่ช่วยลดทอนความเจ็บปวดจากการหายไปตลอดกาลของเพื่อนรัก
“น่าแปลกที่ยิ่งวิ่งไปๆ
ความเศร้าโศกของผมก็ยิ่งดูเหมือนจะจางหาย” เขากล่าว
ไปๆมาๆแทนที่เขาจะได้เขียนหนังสือ
กลับกลายเป็นว่าเขาหลงใหลการวิ่งอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
อันนำไปสู่การมุมานะซ้อมอย่างหนักหน่วง
ตระเวนเดินทางแข่งขันไปทั่วประเทศจนกวาดถ้วยรางวัลมาได้ครบทุกระยะ (มินิมาราธอน ฮาล์ฟมาราธอน และ ฟูลมาราธอน)
เรื่องราวในหนังสือเล่มนี้บอกเล่าเส้นทางของโลกนักวิ่งผู้พยายามเป็นนักเขียน
เขาจะทำความฝันสำเร็จหรือไม่
บทสรุปทั้งมวลจะเปิดเผยตัวตนของมันภายหลังหนึ่งปีในโลกของ “นักวิ่งทาง” [[* ผู้เขียนเล่นคำพ้องความหมาย ล้อเลียนคำว่า "นักวิ่งถนน" (road runner) กับ "นักเดินทาง" (traveler) ]]
แต่ไม่ว่าฝันของเขาจะบรรลุหรือไม่
คามินกล่าวว่า
“ชุมพลต้องไม่ตายเปล่า
และหากผมต้องตายลงเร็ววัน ผมก็ต้องไม่ตายเปล่า
เป็นนักฝันที่ตายลงขณะพยายามทำฝันให้เป็นจริง
อย่างไรเสียก็ดีกว่ามีชีวิตสิ้นไร้จินตนาการในนามของการทำมาหากิน” (หน้า 40)
สำหรับมาราธอน
การวิ่งยาว 42.195
กม. การวิ่งไม่ต่างกับชีวิต
สำหรับชีวิตยาวนาน
30, 40, 50, 60,
70, 80, 90 หรืออาจจะ 100 ปี
ชีวิตไม่ต่างกับมาราธอน
มาราธอนเริ่มต้นขึ้นที่จุด
start จบลงที่จุด finish
แต่ชีวิตเริ่มต้นตรงไหน
และจบลงตรงไหนเล่า
เริ่มต้นที่การเกิด และจบลงที่การตาย ?
มาราธอนสิ้นสุดที่จุดสุดท้ายเพื่อรอวันเริ่มต้นที่จุดใหม่
ชีวิตสิ้นสุดตรงไหน
แล้วไปเริ่มต้นได้อีกหรือเปล่า?
ไม่ว่าคำตอบจะเป็นเช่นใดก็ตาม
ขอเพียงตื่นขึ้น
ปลุกจิตวิญญาณ
“ฉันทำได้” ให้โชติช่วง
กฤตภาศ ศักดิษฐานนท์
Krittapas Sakdidtanon
krit.bloomingtonbook@gmail.com
instagram : krit_krittapas
twitter : @kritkrittapas
Youtube : Krittapas Channel
* บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกใน facebook ของ รางวัลนายอินทร์ อะวอร์ด
* บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกใน facebook ของ รางวัลนายอินทร์ อะวอร์ด
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น